บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (BMT) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (KMUTNB) เพื่อผสานการทำงานในด้านการศึกษา การวิจัย การสรรหาและแลกเปลี่ยนบุคลากร รวมไปถึงโครงการความร่วมมืออื่น ๆ สำหรับนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัยทั้งในหลักสูตรอาชีวศึกษา ปริญญาตรี และปริญญาโท โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้มีเป้าหมายที่จะช่วยสนับสนุนนักศึกษาในประเทศไทยด้วยการส่งมอบโอกาสในการฝึกงานให้แก่เยาวชนที่มีศักยภาพ ถ่ายทอดองค์ความรู้จากบุคลากรของบีเอ็มดับเบิลยู ทำงานร่วมกันในด้านงานวิจัย จัดการเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ที่ระยอง รวมทั้งจัดทำโครงการปรับและพัฒนาทักษะเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่แรงงานในอนาคตของประเทศไทย เพื่อให้มีทักษะที่เหมาะสมกับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์
มร. เอริค รูเก้ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีทักษะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมแล้ว ยังจะช่วยบ่มเพาะอีโคซิสเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับอนาคตของประเทศอีกด้วย ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เรามองเห็นความต้องการบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ในฐานะผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียม บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนบุคลากรในประเทศ และตั้งเป้าที่จะยกระดับทักษะให้แก่นักเรียนไทย ผ่านโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษาได้เข้าฝึกงาน การช่วยสนับสนุนด้านการทำงานวิจัย และการให้บุคลากรของบีเอ็มดับเบิลยูได้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่นักศึกษาของสถาบัน เราเชื่อว่าการลงทุนในภาคการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนไทย จะมีส่วนช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโต รวมทั้งช่วยวางรากฐานให้แก่อนาคตของภาคยนตรกรรมของประเทศ”
ด้าน มร. คนุท โบลกแคร์ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งนั่นทำให้เรามีเป้าหมายสำคัญร่วมกันในด้านการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ของประเทศไทย เพื่อรองรับกับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในอนาคต โครงการความร่วมมือเพื่อยกระดับการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโชน์กับทั้งสองฝ่าย เพราะทำให้เราสามารถร่วมมือกันในด้านโครงการวิจัย การแบ่งปันองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ รวมถึงการสนับสนุนด้านการแลกเปลี่ยนทั้งในแง่ของวิชาการและวัฒนธรรม ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยยกระดับภาคการศึกษาของประเทศไทย และถือเป็นการตอกย้ำคำมั่นสัญญาของเราที่มีให้กับประเทศไทยในด้านการร่วมพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยกำลังเติบโตทั้งในกลุ่มยานยนต์แบบ 4 ล้อและ 2 ล้อ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นแนวหน้า”
ภายใต้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือจะทำงานร่วมกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ครอบคลุมทั้งในด้านการศึกษา การวิจัย การสรรหาบุคลากร การแลกเปลี่ยนบุคลากร และโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ที่มีศักยภาพ ได้เข้าฝึกงาน ภายในระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือนจนถึงหนึ่งปี นอกจากนี้ยังจะช่วยสนับสนุนนักศึกษาของสถาบันในด้านต่าง ๆ ทั้งการทำงานวิจัยที่สถานปฏิบัติงานของบริษัท หัวข้อการวิจัย การเยี่ยมชมโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สนับสนุนทั้งในด้านของบุคลากรบีเอ็มดับเบิลยูและทางมหาวิทยาลัยฯ เพื่อส่งเสริมการยกระดับสมรรถนะบุคคลากรของบีเอ็มดับเบิลยู พัฒนาทักษะ และเพิ่มโอกาสทางการศึกษา รวมทั้ง อำนวยความสะดวกการดำเนินโครงการการเคลื่อนย้ายบุคลากรระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในภาคอุตสาหกรรม ณ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งสนับสนุนโอกาสทางการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาไทยทั้งในด้านทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือในครั้งนี้ มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อยกระดับการศึกษาในประเทศไทยด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญจากทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ให้แก่นักเรียน นักศึกษาไทย จากทั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และสถาบันอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับการปรับและพัฒนาทักษะแรงงานในอนาคตของประเทศ ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในภาพรวม