Hotline 083-411-9393
Wednesday , 12 March 2025
Home News OMODA & JAECOO เริ่มเดินทางอีกครั้ง จัดทริปทดสอบสมรรถนะ JAECOO 7 SHS บนเส้นทางขับขี่ระยะไกลในแอฟริกาใต้โดยใช้น้ำมันถังเดียว
News

OMODA & JAECOO เริ่มเดินทางอีกครั้ง จัดทริปทดสอบสมรรถนะ JAECOO 7 SHS บนเส้นทางขับขี่ระยะไกลในแอฟริกาใต้โดยใช้น้ำมันถังเดียว

OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ได้นำ JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) ยนตรกรรม Plug-in Hybrid มาแสดงสุดยอดสมรรถนะอีกครั้ง หลังการทดสอบระยะไกลสุดท้าทายในประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สเปน และประเทศอื่นๆ ด้วยความสำเร็จอันน่าทึ่ง JAECOO 7 SHS LONG-RANGE TEST JOURNEY เริ่มต้นการเดินทางอีกครั้งเพื่อข้ามทวีปยูเรเซียอันกว้างใหญ่ไปยังทวีปแอฟริกาที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและเสน่ห์แบบดั้งเดิม สื่อมวลชนจาก 6 ประเทศ จากประเทศแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มารวมตัวกันเพื่อเปิดฉากความท้าทายครั้งสำคัญอีกครั้ง ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมและความทนทานของของรถยนต์ JAECOO 7 SHS เมื่อขับขี่ ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิและความชื้นสูง อีกทั้งยังร่วมนำเสนอจุดแข็งอันทรงพลังของ JAECOO 7 SHS ในฐานะ “Super HEV + EV” ของ OMODA & JAECOO สู่สายตาผู้ใช้งานทั่วโลก นอกจากนี้ ยังนำรถรุ่นแฟลกชิประดับไฮเอนด์อย่าง OMODA C9 มาร่วมทดสอบการขับขี่และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทดสอบการขับขี่ระยะไกลสุดท้าทายในครั้งนี้

การเชื่อมสัมพันธ์ 6 ประเทศเพื่อท้าทายเส้นทางที่สวยงามที่สุดในโลก

การเดินทางแบบซาฟารีเป็นรูปแบบการเดินทางที่มีเฉพาะในทวีปแอฟริกา โดยผู้ร่วมทริปออกเดินทางพร้อมกับผู้นำทางมืออาชีพสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจจากการพบสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด เป็นการเดินทางที่นักเดินทางผู้รักธรรมชาติทุกคนตั้งเป้าที่จะได้ลองสัมผัสสักครั้ง ทั้งนี้ The South Africa Safari Long Range Test Champion จะจัดขึ้นบนผืนดินที่เต็มไปด้วยผืนป่า ความมีชีวิตชีวาและการผจญภัย โดยมีสื่อมวลชนและผู้ใช้งานจากประเทศแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพื่อเป็นการเปิดฉากการทดสอบที่ล้ำลึกและการแสดงความแข็งแกร่งของ JAECOO 7 SHS

จุดเริ่มต้นของการทดสอบการขับขี่ระยะไกลนี้ เริ่มจากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ โดยผู้ร่วมทริปจะเดินทางจากทิศตะวันตกสู่ตะวันออก ผ่านเส้นทางที่เรียกว่า Garden Route ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผู้ร่วมทดสอบจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่แหลม Good Hope พบกับเพนกวินสายพันธุ์แอฟริกันใกล้สูญพันธุ์ที่หาด Boulders ซึ่งมีทั้งความงดงามและแข็งแกร่งของชีวิต และได้พบกับชีตาห์ สิงโตอย่างใกล้ชิดที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Robberg นอกจากนี้ยังได้ชมการเต้นรำแบบแอฟริกาใต้และลิ้มรสอาหารชั้นเลิศของท้องถิ่น อีกทั้งยังได้สัมผัสกับเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมแอฟริกาใต้ที่มีสเน่ห์ไม่เหมือนใคร ระหว่างที่ได้สัมผัสประสิทธิภาพของ JAECOO 7 SHS ผู้ร่วมทริปยังจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามประสบการณ์พิเศษของการผสานเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

จุดหมายปลายทางของการเดินทางที่มีระยะทางกว่า 1,100 กิโลเมตร คือเมืองอลิซาเบท ประเทศแอฟริกาใต้ ตลอดเส้นทางมีสภาพถนนหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ถนนริมชายฝั่ง ทางหลวง ถนนชนบท การเดินทางครั้งนี้สามารถทดสอบความทนทาน ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ประสบการณ์การขับขี่และสมรรถนะอื่นๆ อีกหลายด้านของ JAECOO 7 SHS สื่อมวลชนจาก 6 ประเทศจะได้สัมผัสทุกสิ่งตลอดการเดินทางและร่วมบันทึกประสิทธิภาพอันเยี่ยมยอดของรถยนต์รุ่น JAECOO 7 SHS เพื่อถ่ายทอดสู่สายตาผู้ใช้งานทั่วโลก

ความท้าทายหลากหลายมิติ: ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเป็นผู้นำเทรนด์ด้านการขับขี่ในแอฟริกาใต้

ในเดือนกุมภาพันธ์ ประเทศแอฟริกาใต้จะเป็นฤดูฝน ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องจะเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ถนนลื่น การจราจรในเขตเมืองจะหนาแน่นและวุ่นวาย ดังนั้น ความท้าทายที่จะได้รับความสนใจมากที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ คือ ระยะทางการขับขี่รวมสูงสุดกว่า 1,200 กิโลเมตร (วัดตามเกณฑ์ WLTP) และระยะทางการขับขี่สูงสุดแบบใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 90 กิโลเมตร (วัดตามเกณฑ์ WLTP) โดยเครื่องยนต์ระบบซูเปอร์ไฮบริด (SHS) ซึ่งถือเป็นโซลูชั่นด้านพลังงานแบบใหม่ที่ดีที่สุดในโลก จะประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ระบบส่งกำลังสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ช่วยให้มีความทนทานในระดับสูงแม้ในสภาวะความชื้นสูง พร้อมทั้งสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ในช่วงเริ่มต้น JAECOO 7 SHS จะมีกำลังเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 255 กิโลวัตต์และแรงบิดสูงสุดที่ 525 นิวตันเมตร เทียบเท่ากับ 340 แรงม้า ช่วยมอบการยึดเกาะที่เหนือชั้นให้กับล้อ ทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะมั่นคงและไม่ลื่นไถล อัตราเร่งที่รวดเร็วช่วยให้รถมีอัตราเร่งจาก 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที ระบบการสำรองพลังงานที่เหนือระดับช่วยให้รถยนต์มีอัตราเร่งที่ดีแม้จะอยู่ในขณะใช้ความเร็วสูงถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะที่สูง และระบบกลไกการสร้างกำลังที่ทำงานได้ต่อเนื่องมีความทนทานสูงเทียบเท่าเครื่องยนต์ 3.0T ช่วยให้การขับขี่ขึ้นเนินในวันฝนตกเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้ผู้ขับขี่มีประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจ

นอกเหนือจากสมรรถนะด้านกำลังแล้ว JAECOO 7 SHS ยังต้องเผชิญความท้าทายในแง่ของการประหยัดพลังงาน รวมไปถึงความเงียบและความสบายขณะขับขี่ ด้วยการผสานเทคโนโลยีหลักทั้ง 6 ส่วนเข้าด้วยกัน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ด้วยระบบการจัดการพลังงานขั้นสูง ทำให้ JAECOO 7 SHS แสดงให้เห็นถึงการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยมในขณะที่ยังคงความแข็งแกร่งและความสามารถในการเร่งความเร็วได้อย่างต่อเนื่องไว้ สามารถกู้คืนพลังงานจากการเหยียบเบรกเข้าสู่ระบบส่งกำลังเพื่อยกระดับความประหยัดหลังงานขณะขับขี่ในบางสภาวะ เช่น เมื่อต้องออกตัวและหยุดบ่อยครั้งบนถนนในเมือง การจราจรติดขัด และการขึ้นเนินสูงชันภายในสภาพถนนที่ซับซ้อน อัตราการใช้พลังงานที่รถรุ่นนี้ทำได้คือ 6 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร (ตามเกณฑ์ WLTP) ช่วยลดต้นทุนการขับขี่ ช่วยประหยัดทั้งน้ำมันและเงิน ด้านความเงียบและความสบายขณะขับขี่ถือเป็นปัจจัยชี้วัดที่สำคัญปัจจัยหนึ่งในการทดสอบครั้งนี้ ในระหว่างการขับขี่ ระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ไฮบริดช่วยให้การสลับระบบเป็นไปได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ขับขี่ได้ต่อเนื่องไม่รู้สึกสะดุด ประสิทธิภาพการซับเสียงช่วยให้รถยนต์มีความเงียบแม้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายและทำให้การเดินทางทุกครั้งมีความเพลิดเพลิน

การเดินทางครั้งใหม่ในการทดสอบระยะไกลในแอฟริกาใต้ของ J7 SHS นี้ ได้เผชิญกับสภาพอากาศอันโหดร้ายและสภาพถนนที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะอันโดดเด่นของรถที่สามารถรับมือกับความท้าทายในหลากหลายสภาวะ โดยได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและการตอบสนองได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพการขับขี่ ที่มากไปกว่านั้น การทดสอบนี้ไม่ได้เป็นเพียงบททดสอบเพื่อพิสูจน์ความสามารถในการวิจัยและพัฒนาด้านเทคนิค (R&D) ของ OMODA & JAECOO ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างยานยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ แต่ยังเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยมเพื่อสัมผัสประเพณีท้องถิ่นของแอฟริกาใต้ด้วย  ประสบการณ์จากการทดสอบในครั้งนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป

เตรียมพบกับการเปิดตัว JAECOO 7 SHS ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการได้ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 นี้

Related Articles

ฮอนด้า คว้า 4 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี Car of the Year 2025 นำโดยไลน์อัป Full Hybrid e:HEV ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ น่าใช้ น่าขับ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้

ฮอนด้า เริ่มต้นปี 2568 ด้วยรางวัลที่สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้า โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด คว้า 4...

RIDDARA RD6 คว้ารางวัลรถกระบะพลังงานไฟฟ้ายอดเยี่ยม “BEST PICKUP EV” ในงาน CAR OF THE YEAR 2025

GEELY RIDDARA  รายงานความสำเร็จอีกขั้นของการดำเนินงานในประเทศไทย โดย  RIDDARA RD6 รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% ได้รับรางวัล “BEST PICKUP EV”...

ฟอร์ด คว้า 2 รางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีจาก Car of the Year 2025

ฟอร์ด ประเทศไทย นำโดย นายเมธัส ลิขิตสัจจากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย และนายอรรถกร สกุนะสิงห์ Experiential Marketing...

บริดจสโตนรับรางวัลทรงเกียรติ “BEST SELLING TYRE โดยกรังด์ปรีซ์” 27 ปีซ้อนจากเวที “CAR & BIKE OF THE YEAR 2025” ครองความแข็งแกร่งต่อเนื่องในตลาดยางรถยนต์

บริดจสโตนตอกย้ำการเป็นผู้นำและครองความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดยางรถยนต์ของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คว้ารางวัลทรงเกียรติ “แบรนด์ที่มียอดจำหน่ายยางรถยนต์สูงสุดในประเทศ โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ...