Hotline 083-411-9393
Friday , 22 November 2024
Home News เอ็มจี เผยสเปค ALL NEW MG3 HYBRID+เปลี่ยนนิยามรถไฮบริด นำเสนอความเป็นที่สุดใน B-segment กับจุดเด่น ประหยัดกว่า แรงกว่า กว้างกว่า ปลอดภัยกว่า พร้อมเคาะราคาอย่างเป็นทางการ สิงหาคมนี้
News

เอ็มจี เผยสเปค ALL NEW MG3 HYBRID+เปลี่ยนนิยามรถไฮบริด นำเสนอความเป็นที่สุดใน B-segment กับจุดเด่น ประหยัดกว่า แรงกว่า กว้างกว่า ปลอดภัยกว่า พร้อมเคาะราคาอย่างเป็นทางการ สิงหาคมนี้

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เดินหน้านำเสนอทางเลือกใหม่ให้คนไทยด้วยยนตรกรรมในทุกรูปแบบการขับเคลื่อน พร้อมสร้างประสบการณ์ครั้งใหม่ในตลาด B-Segment กับการเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ รถยนต์ไฮบริดเทคโนโลยีใหม่จาก เอ็มจี ซึ่งเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นที่ 2 ที่เตรียมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่จากไลน์การผลิตในประเทศไทย เจาะกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ ชูจุดเด่นรถยนต์พลังงานทางเลือกที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยโกลบอลดีไซน์ที่ดูปราดเปรียว มาพร้อมขุมพลังไฮบริด HYBRID+ ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน และมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างลงตัว หนึ่งเดียวในคลาสกับห้องโดยสารกว้างสุด ประหยัดกว่าด้วยน้ำมันหนึ่งถังวิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน การันตีความเชื่อมั่นด้วยผลการทดสอบโดยทีมวิศวกรชั้นนำระดับโลก โดย เอ็มจี เตรียมพร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในเดือนสิงหาคมนี้

ALL NEW MG3 HYBRID+ ยนตรกรรมที่จะเข้ามายกระดับมาตรฐานการเป็น “รถยนต์ไฮบริด”

ALL NEW MG3 HYBRID+ รถแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู ยนตรกรรมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุดจาก เอ็มจี ด้วย 8 โหมดการขับเคลื่อนของระบบ HYBRID+ ที่รวมทุกระบบไฮบริดไว้ในคันเดียวได้อย่างสมบูรณ์แบบและตอบสนองต่อทุกการใช้งานรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งระบบขับเคลื่อนแบบอนุกรม (Series Hybrid) ระบบขับเคลื่อนแบบผสานเครื่องยนต์และมอเตอร์ (Parallel Hybrid) หรือแม้แต่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน (Pure EV) ทำให้การขับขี่ในทุกช่วงความเร็วเป็นไปอย่างราบรื่นและลงตัว พร้อมคงจุดเด่น   ของการเป็น “รถแฮทช์แบ็กไฮบริดที่ประหยัดกว่า ขับสนุกกว่า และเร้าใจกว่า” ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าด้วยสัมผัสเฉกเช่นรถไฟฟ้าแต่ไปได้เร็วกว่าโดยไม่ต้องรอชาร์จไฟ จากขุมพลังไฮบริดใหม่
ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) รองรับน้ำมัน E20 ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 8 วินาที ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลัง Hybrid Transmission ด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT ให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสม ลดเสียงรบกวน และประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium-Ion ที่มีความจุมากถึง 1.83 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และถือเป็นรถยนต์ไฮบริดที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดโดยน้ำมันหนึ่งถังสามารถไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังสามารถปรับโหมดควบคุมการขับขี่ได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Standard และโหมด Sport ทั้งยังมีระบบ KERS เหมือนในรถไฟฟ้าที่สามารถปรับการใช้งานได้ 3 ระดับ และให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งครอบคลุมระบบความปลอดภัย ADAS เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบพร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System) ไว้ได้อย่างครบถ้วน พร้อมยกระดับการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยกล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition

ในส่วนของการออกแบบ ยังคงสไตล์ความคล่องตัวปราดเปรียวในแบบฉบับของรถแฮทช์แบ็ก โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นรถที่มีความกว้างมากที่สุดในคลาส ด้วยขนาดความกว้างกว่า 1,797 มิลลิเมตร ดีไซน์ไฟหน้า LED แบบใหม่ Hunter Eye Headlamp ดวงตานักล่า ที่ดูคมชัด และโฉบเฉี่ยว พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เส้นสายการออกแบบ รอบตัวถังเน้นความโค้งมน ภายในห้องโดยสารสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ Modular Concept ที่ให้ความสำคัญกับ วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมการออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ เน้นความสะดวกในการใช้สอย สำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร ทั้งเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน โดยเฉพาะการออกแบบห้องโดยสารที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา  (Leg room) โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ มีห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร อำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่และการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ด้วยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว รวมถึงระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และกุญแจรีโมทอัจฉริยะแบบ Smart Key

บทสรุปของนิยามบทใหม่ ภายใต้การรังสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพของ ALL NEW MG3 HYBRID+

ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นโกลบอลโมเดลที่สะท้อนความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ด้วยการเป็นยนตรกรรมที่คิดค้น พัฒนา และทดสอบโดยทีมวิศวกรระดับโลก และมีการปรับจูนทุกระบบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริงบนท้องถนนทั่วโลก และพร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ไฮบริดครั้งใหม่ที่จะยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์โลกและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อีกขั้น โดยมีสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้

  • รวมระยะทางมากกว่า 14,000 กิโลเมตร กับการวิ่งทดสอบบนถนนจริง (Road Test) ในทวีปยุโรป เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนเต็มในช่วงฤดูร้อน และมากกว่า 10,000 กิโลเมตร ใน 2 เดือนเต็มของช่วงฤดูหนาว
  • ระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร ที่ทีมวิศวกรระดับโลกได้นำ ALL NEW MG3 HYBRID+วิ่งทดสอบและปรับจูนในสถานการณ์ที่หลากหลาย (Multi-scenario Road Test and Tuning) โดยมี สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ และพื้นผิวบนท้องถนนที่แตกต่างกัน อาทิ สนามทดสอบกว่างเต๋อ (SAIC – GM Guangde Proving Ground) ในมณฑลอานฮุย (Anhui) สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ซึ่งเป็นสนามทดสอบรถทุกรุ่นของ SAIC MOTOR CORPORATION ก่อนปล่อยสู่ตลาด ตลอดจนทดสอบวิ่งบนถนนสาธารณะ (Public Road) บนทางไฮเวย์ รวมถึงการทดสอบวิ่งในสนามที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นอย่าง Hailar Ultra-cold Proving Ground ในเมืองไฮลาเออร์ประเทศมองโกเลีย กับการทดสอบแบบ Extreme Cold Test ภายใต้อุณหภูมิ -30 °C  
    ทั้งยังผ่านการทดสอบการวิ่งใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด หรือ Extreme Hot Test ภายใต้อุณหภูมิพื้นผิวสูงถึงกว่า 70 °C  ที่เมืองถูหลู่ฟาน มณฑลซินเจียง ซึ่งถือเป็นดินแดนที่ร้อนที่สุดในประเทศจีน
  • มากกว่า 300 ครั้ง กับการขับทดสอบปรับจูนรับระบบช่วงล่าง
  • มากกว่า 200 ชั่วโมง ในการทดสอบการปรับจูนพวงมาลัย บนเงื่อนไขทั้งในการจำลองสถานการณ์เหมือนจริง (Simulator) และการขับทดสอบบนท้องถนน (Real road) เพื่อศักยภาพในการควบคุมการขับขี่ ให้แม่นยำ รวดเร็ว และดีกว่ารถไฮบริดทั่วไป ด้วยความไวของพวงมาลัยที่เพิ่มขึ้นถึง 5%
  • มากกว่า 100 ครั้ง กับการจำลองโมเดลเสมือนจริง เพื่อพัฒนายางล้อที่มีประสิทธิภาพ
  • สำหรับในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีมวิศวกรได้นำ ALL NEW MG3 HYBRID+ วิ่งทดสอบ รวมระยะทางวิ่งแล้วกว่า 10,000 กิโลเมตร ทั่วทุกภูมิภาค
  • ล่าสุดกับรางวัล “Affordable Hybrid of the Year” จาก Auto Express in UK 
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ALL NEW MG3 HYBRID+ เป็นรถยนต์ไฮบริดที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมในประเทศต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค และถือเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ที่ได้นำเทคโนโลยีอย่าง ระบบ HYBRID+ สู่การรังสรรค์รถยนต์พลังงานทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานรถของลูกค้า ทั้งยังเป็นยนตรกรรมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ในการเดินหน้าสู่เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สีเขียว (Green Mobility) ให้กับตลาดยานยนต์โลก โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถูกวางให้เป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ (Strategic Model) ประจำปีนี้ของ เอ็มจี ในการบุกและปลุกตลาด B-Segment ในเมืองไทยกับการเป็นยนตรกรรมที่จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาความสมดุลระหว่างความประหยัดและสมรรถนะที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยราคาที่เข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่าย ซึ่ง เอ็มจี มีแผนเปิดราคาจัดจำหน่ายของ ALL NEW MG3 HYBRID+ อย่างเป็นทางการภายในเดือนสิงหาคมนี้”   

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของ เอ็มจีได้ที่

Website: www.mgcars.com

Line: @MGThailand

Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand

Twitter: @mg_thailand

Instagram: @mgthailand

Youtube: MG Thailand

TikTok: @mgthailand

Application: MG Thailand

Recent Posts

Categories

Related Articles

เมอร์เซเดส-เบนซ์ พารถยนต์ไฟฟ้า EQS SUV ตะลุยเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตงเติมความมั่นใจทุกการขับขี่ เช็คอินจุดชาร์จทั่วภาคใต้!  

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พาตะลุยเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic...

นิสสัน เตรียมเปิดตัว “เซเรน่า” เติมสีสันในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 

นิสสัน ประกาศสร้างสีสันในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) กับการเปิดตัวรถยนต์ “นิสสัน เซเรน่า ใหม่” รถยนต์อเนกประสงค์...

เตรียมพบกับ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ในปี 2569

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศความพร้อมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อส่งมอบสมรรถนะการใช้งานที่เหนือระดับไปอีกขั้นสำหรับลูกค้าที่เกิดมาแกร่งอย่างแท้จริง โดยพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลีย ปี พ.ศ....

ย้อนตำนานต้นกำเนิดปิกอัพมาสด้าในประเทศไทยกว่า 74 ปี ยังคงสรรสร้างยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร

การไหลผ่านของเวลาที่ล่วงเลยมาอย่างยาวนานของมาสด้า คือบทพิสูจน์บนเส้นทางแห่งความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ไปพร้อมกับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และความภาคภูมิใจแห่งยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ด้วยก้าวย่างที่มั่นคง แข็งแรง สร้างพื้นฐานไว้อย่างแน่นหนา จวบจนปัจจุบัน เป็นบทสรุปแห่งความสำเร็จกว่า 74 ปี ในประเทศไทย...