Hotline 083-411-9393
Sunday , 24 November 2024
Home Motorcycle บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย บิดคันเร่งเข้าสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ด้วยมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ ตอบโจทย์หลายสไตล์การขับขี่
MotorcycleNews

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย บิดคันเร่งเข้าสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ด้วยมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ ตอบโจทย์หลายสไตล์การขับขี่

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยกทัพบิ๊กไบค์สู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 นำขบวนโดยมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS รุ่นใหม่ของมอเตอร์ไซค์ GS ในตำนาน บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 นี้ ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี พร้อมส่งสุดยอดมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มทัวริ่ง เอนดูโร R 1300 GS ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ลดทอนน้ำหนักลงถึง 12 กิโลกรัม เครื่องยนต์และการออกแบบถังเชื้อเพลิงให้โฉบเฉี่ยวและกะทัดรัดยิ่งกว่าที่เคย รวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองโดยเฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “eParkourer” ที่มอบทั้งความคล่องตัว ทรงพลัง และความเร้าใจในการขับขี่ และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ซูเปอร์ไบค์ที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะในการขับเคลื่อน ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์สไตล์มอเตอร์สปอร์ต และบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 ใหม่ สำหรับประสบการณ์ทัวริ่งสุดหรูในทุกช่วงเวลาการขับขี่ทางไกล และความสบายที่เหนือระดับ

มร. ชิวาภาดา เรย์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังคงมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดบิ๊กไบค์ของไทย และให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม พร้อมนำมอเตอร์ไซค์ใหม่ 4 รุ่น สู่งานมอเตอร์โชว์ 2024 ณ บูธ M7 รวมถึงโปรโมชันพิเศษและสิทธิประโยชน์ มาให้ลูกค้าเลือกสรร พร้อมมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้านักบิดในไทยของเรา”

ไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ สี Triple Black

ราคาจำหน่าย: 1,125,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ สี GS Trophy

ราคาจำหน่าย: 1,125,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ สี Option 719

ราคาจำหน่าย: 1,205,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือไปอีกขั้นในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ทัวริ่ง เอนดูโร จากตระกูล GS กับการปรับโฉมใหม่เกือบทั้งหมด ด้วยการลดทอนน้ำหนักลงถึง 12 กิโลกรัม พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบวางเรียงระดับตำนานของตระกูล GS ที่ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดยิ่งกว่าที่เคย พร้อมความจุ 1,300 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 107 กิโลวัตต์ (145 แรงม้า) ที่ 7,750 รอบต่อนาที มอบแรงบิดสูงสุด 149 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ
ต่อนาที นับว่าเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่บีเอ็มดับเบิลยูเคยมีมา

ระบบกันสะเทือนใหม่มีแกนหลักขึ้นรูปจากแผ่นเหล็กกล้า ซึ่งนอกจากจะได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพในแง่ของตำแหน่งการติดตั้ง ยังมอบความหน่วงที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ชุดเฟรมด้านหลังผลิตจากอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป แทนชุดเฟรมเหล็กกล้าสองชั้นแบบเดิม บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS มาพร้อมระบบกันสะเทือน EVO Telelever ใหม่ที่ล้อหน้า ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังมาพร้อมระบบ EVO Paralever ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ มอบจังหวะการบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมและเสถียรภาพในการทรงตัวที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ยังมาพร้อมระบบปรับช่วงล่างแบบไดนามิก (DSA) ใหม่ ซึ่งปรับความหนืดของระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังให้เข้ากับอัตราการยุบตัวของสปริง โดยทำงานสอดรับกับโหมดการขับขี่ที่เลือก สภาพถนนและลักษณะการขับขี่ ระบบควบคุมความสูงแบบอัตโนมัติ (Adaptive Vehicle Height Control System) ช่วยปรับความสูงของมอเตอร์ไซค์อย่างอัตโนมัติตามสภาพการใช้งานในเวลานั้น ๆ การันตีความสะดวกสบายสูงสุดให้การขับขี่เต็มไปด้วยสีสัน

สำหรับสายผจญภัยทางวิบากสามารถเลือกโหมดการขี่ “Enduro” ใหม่ ซึ่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นระหว่างการผจญภัยบนเส้นทางวิบากโดยเฉพาะ โหมดการขับขี่ “Rain” และ “Road” ปรับแต่งเพื่อรองรับการขับขี่บนสภาพท้องถนนหลากหลายรูปแบบ ในขณะที่โหมด “Eco” จะมอบการขับขี่ที่ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและประหยัดน้ำมันเพื่อระยะการเดินทางสูงสุด

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS มาพร้อมไฟหน้าแบบ Full-LED ขนาดกะทัดรัด พร้อมไฟรูปแบบใหม่ที่ดูแตกต่าง ออกแบบให้ดูทันสมัยโดดเด่นตามมาตรฐาน ด้วยไฟ LED สองดวงสำหรับไฟต่ำและสูง นอกจากนี้ ยังมีไฟ LED เพิ่มเติมอีกสี่ดวงสำหรับใช้เป็นไฟส่องสว่างเวลากลางวันและไฟส่องสว่างด้านข้าง ช่วยมอบทัศนวิสัยที่เหนือชั้นกว่าที่เคยในทุกการขับขี่ ฟีเจอร์ Headlight Pro ยังช่วยปรับลำแสงจากไฟหน้า LED ตามการเข้าโค้ง เพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจ ไฟเลี้ยวแบบ LED ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ติดตั้งที่บริเวณแฮนด์การ์ดพร้อมฟังก์ชันครบครัน มอบความสมบูรณ์แบบให้กับระบบไฟ
ส่องสว่างของบีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่

นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ อัดแน่นด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงแบบใหม่ ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่ Active Cruise Control (ACC), ระบบเตือนการชนด้านหน้า Front Collision Warning (FCW) และ ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Lane Change Warning (SWW) โดยระบบควบคุมความเร็วคงที่มาพร้อมระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ทำให้ตั้งค่าความเร็วรวมถึงระยะห่างจากรถคันหน้าได้ตามความต้องการ ระบบเตือนการชนด้านหน้ามาพร้อมระบบเบรก ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการชนและช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในขณะที่ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางบริเวณเลนซ้ายและขวา เมื่อใช้ร่วมกับกระจกมองหลังจะยิ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะเปลี่ยนเลน

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ ได้ปรับโฉมรถมอเตอร์ไซค์ในตระกูล GS แบบดั้งเดิม สู่สไตล์การออกแบบที่ปราดเปรียวยิ่งกว่า ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบถังเชื้อเพลิงอลูมิเนียมใหม่ให้แบนราบลง มอบรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว โดยบีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS พร้อมให้เหล่านักบิดจับจองเป็นเจ้าของได้ใน 3 เฉดสีสุดโดดเด่น ได้แก่ สีดำ Black Storm Metallic สุดเท่, สีน้ำเงิน Racing Blue Metallic ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง, และสีเขียว-ทองสุดหรูหราในเฉด Option 719 Aurelius Green Metallic

บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่

ราคาจำหน่าย: 479,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ เป็นยนตรกรรมไฟฟ้าจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้ชีวิตในเมือง มาในคอนเซ็ปท์ “eParkourer” (Pakour หรือ ปากัวร์ เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่เน้นการปีนป่ายข้ามอุปสรรคด้วยความรวดเร็ว) มอบความคล่องตัว ทรงพลังและความเร้าใจในการขับขี่แต่ละวัน พร้อมสัมผัสประสบการณ์สดใหม่ในการขับขี่ยนตรกรรมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง เป็นยนตรกรรมไฟฟ้าที่แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า มอบความคล่องตัว ความสะดวกสบาย ความทนทาน และความสนุกเร้าใจทุกการขับขี่การออกแบบสะท้อนความเป็นอิสระและความสนุกสนาน สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากเบาะนั่งที่มีรูปทรงคล้ายสเก็ตบอร์ด ตัวถังใช้สีดำเป็นหลัก ทั้งโครงรถ ล้อ บังโคลนหน้าและแผงคอ ตกแต่งด้วยสีเทา Granite Grey Metallic Matt บริเวณฝาครอบเครื่องยนต์ มอบความโดดเด่นสวยงามจากความแตกต่างระหว่างพื้นผิวด้านและมันวาวบนตัวถัง

บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 โวลต์ ความจุ 1.96 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 2 ก้อน โดยแบตเตอรี่สามารถถอดได้ระหว่างการบำรุงรักษา สร้างกำลังได้สูงสุด11 กิโลวัตต์ (15 แรงม้า) ส่งแรงบิดสูงสุด 55 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ไกลถึง 95 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยแบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ในเวลา 210 นาที และชาร์จจาก 20% ถึง 80% ในเวลา 102 นาที ด้วยสายชาร์จแบบเร็วที่ให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยให้กำลังไฟสูงถึง 1,500 วัตต์ บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ยังมาพร้อมกับ 2 รูปแบบการขับขี่คือโหมด “Flow” และ “Surf” โดยโหมด “Flow” เหมาะสำหรับการขับขี่ฝ่าการจราจรหนาแน่นในเมือง ในขณะที่โหมด “Surf” มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจเมื่อพ้นช่วงการจราจรที่พลุกพล่าน

บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ มาพร้อมชุดเฟรมเหล็กกล้าสองชั้นที่ทนทานต่อการบิดงอ ช่วงล่างแบบ telescopic ติดตั้งบริเวณล้อหน้า ล้อหลังติดตั้งระบบสวิงอาร์มเดี่ยวและช่วงล่างแบบ pivoted ยางหน้ากว้างหุ้มล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบดิสก์วีล พร้อมดิสก์เบรกทั้งล้อหน้าและล้อหลังเพื่อเพิ่มความมั่นใจขณะชะลอความเร็ว ระบบเบรก ABS ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดติดตั้งที่ล้อหน้ายังช่วยเพิ่มความปลอดภัยเหนือระดับ

แผงหน้าปัดควบคุมของบีเอ็มดับเบิลยู CE 02 มาพร้อมจอภาพสี TFT ให้ภาพที่คมชัด โดยแสดงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ อาทิ ความเร็วในการขับขี่และสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ ช่องชาร์จ USB-C ทำให้ชาร์จสมาร์ทโฟนได้สะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน BMW Motorrad Connected ยังแสดงระยะเวลาที่คาดว่าการชาร์จจะสิ้นสุดบนสมาร์ทโฟนผ่านการเชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ (สี Light white/M Motorsport)

ราคาจำหน่าย: 1,005,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ส่งมอบสมรรถนะในแบบซูเปอร์ไบค์มาท้าทายขีดจำกัดนักบิดอีกครั้งกับสี Light White/M Motorsport ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ มอเตอร์ไซค์รุ่นดังกล่าวผสานจิตวิญญาณ #NeverStopChallenging เหมาะสำหรับการขี่ทุกรูปแบบทั้งบนท้องถนน ในสนามแข่ง หรือทั้งสองสไตล์ร่วมกัน มาพร้อมคุณสมบัติเหนือชั้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น แชสซีและระบบช่วงล่างที่เหนือชั้นกว่าที่เคย ระบบเบรก Slide Control ระบบควบคุม Dynamic Traction Control ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นควบคุมการลื่นไถล (Slide Control) และอีกหลากหลายระบบช่วยเหลือสุดล้ำสมัย คุณสมบัติดังกล่าวยังช่วยสร้างไดนามิกการขับขี่ที่เหนือชั้นให้กับบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR พร้อมมอบสมรรถนะขั้นสูงสุดและประสบการณ์
การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครให้แก่เหล่านักบิด

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน 4 วาล์วไทเทเนียมต่อลูกสูบ DOHC และ BMW ShiftCam ความจุ 999 ซีซี ส่งพละกำลัง 154 กิโลวัตต์ (210 แรงม้า) ที่ 13,750 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 303 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาที ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่และการเร่งขณะขับขี่ที่ความเร็วต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

หัวใจสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ คือ โครงสร้างตัวถังแบบ “Flex Frame” อันก้าวล้ำ ซึ่งเป็นแชสซีและระบบกันสะเทือนแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนาในด้านความแม่นยำในการขับขี่ การควบคุมที่เฉียบคม และการตอบสนองจากล้อหน้าที่ฉับไวยิ่งขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังสามารถรองรับสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย ทั้ง 4 รูปแบบการขับขี่พื้นฐาน ได้แก่ โหมดการขับขี่ “Rain”, “Road”, “Dynamic” และ “Race” อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ “Pro” ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการควบคุมต่าง ๆ ให้ตรงกับรูปแบบการขับขี่เฉพาะตัว ทำงานร่วมกับระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Slide Control สามารถให้ผู้ขับขี่เลือกการตั้งค่าการดริฟท์ได้สองระดับขณะเร่งออกจากโค้ง ในทำนองเดียวกัน ระบบ ABS ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันระบบควบคุมการเลื่อนเบรก Slide Control ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่ามุมดริฟท์เฉพาะสำหรับสไตล์การขับที่เรียกว่าการดริฟต์เบรก ขณะที่ไถลเข้าโค้งด้วยความเร็วคงที่

ด้านดีไซน์ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังมาพร้อมรูปโฉมด้านหน้าใหม่ ฝาครอบเบาะนั่งซ้อนท้ายที่หรูหรา และส่วนท้ายแบบใหม่ เบากว่าและดูสปอร์ตยิ่งขึ้น สี Black Storm Metallic ยังช่วยให้มอเตอร์ไซค์มีรูปลักษณ์ที่หรูหราอย่างยิ่ง โดยเน้นถึงธรรมชาติของตัวรถที่มีสมรรถนะสูงจากในสนามแข่ง ในขณะที่รุ่นสี Light White/M Motorsport ใหม่ ก็มาพร้อมกับแถบสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของของโลโก้บีเอ็มดับเบิลยู M พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีขาวดำตัดกับส่วนที่เหลือของมอเตอร์ไซค์

บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GT ใหม่ ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 1,695,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GTL ใหม่ ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 1,775,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ใหม่ ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 1,695,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ใหม่ ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 1,775,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทัพมอเตอร์ไซค์ในตระกูล K 1600 ใหม่ จากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด พร้อมเร่งเครื่องสู่ท้องถนนและพาเหล่านักบิดสัมผัสประสบการณ์ทัวริ่งสุดหรูในทุกช่วงเวลาของการขับขี่ โดยแต่ละรุ่นมอบประสบการณ์การขับขี่ทางไกลที่มาพร้อมความสบายเหนือระดับ บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GT มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัวและทรงพลังด้วยเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GTL ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อมอบความสบายในการขับขี่ มาพร้อมกล่องสัมภาระท้ายรถ (top case) แบบมาตรฐานเพื่อประสบการณ์การขับขี่สุดประทับใจ ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ออกแบบให้มีความปราดเปรียวด้วยด้านท้ายที่ลาดต่ำในสไตล์แบกเกอร์ และบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ต่อยอดการออกแบบจากรุ่น K 1600 B พร้อมอุปกรณ์เสริมที่ทำให้ทุกการขับขี่ทางไกลเปี่ยมด้วยความสะดวกสบายและสนุกเร้าใจ

ทัพมอเตอร์ไซค์ทั้งสี่รุ่นในตระกูล K 1600 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ส่งพละกำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ (160 แรงม้า) ที่ 6,750 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ที่ 5,250 รอบต่อนาที โดยทุกรุ่นมาพร้อมระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) เพื่อป้องกันการลื่นไถลที่เกิดจากล้อหลังหมุนฟรีขณะเข้าเกียร์ว่างหรือเปลี่ยนเกียร์เพื่อลดความเร็ว

มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล K 1600 ใหม่ ทุกรุ่น มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่างแบบไฟฟ้า (Dynamic ESA)เจเนอเรชันใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย มอบสมรรถนะเร้าใจและความสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ โดยทำงานอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่, ลักษณะการควบคุมหรือแม้แต่ตำแหน่งการขับขี่ โดยในสถานการณ์ปกติ ระบบปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้า (Dynamic ESA) จะเริ่มทำงานในโหมดการขับขี่ “Road” แต่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโช้คอัพให้มีความหน่วงมากขึ้นและควบคุมรถได้เฉียบคมขึ้นโดยกดปุ่มเปลี่ยนไปยังโหมด “Dynamic” ส่วนรุ่น K 1600 GT และ GTL ยังมีโหมดการขับขี่ “Rain” เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจในสภาวะการขับขี่ที่ท้าทาย โดยรุ่นย่อย K 1600 B และ K 1600 Grand America มาพร้อมโหมด “Cruise” มอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างขับขี่ทางไกล

ในฐานะผู้บุกเบิกด้านความปลอดภัยในการขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 ใหม่ ยังติดตั้งมากับไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีเลนส์ LED และไฟส่องสว่างในเวลากลางวันซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อมอบความสว่างและทัศนวิสัยที่ชัดเจนบนถนน ฟังก์ชันไฟหน้าแบบปรับได้อัตโนมัติช่วยปรับลำแสง LED ของไฟให้ต่ำและสาดไปด้านข้างขณะเข้าโค้ง เพื่อทัศนวิสัยที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันไฟที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ สะดวกสบาย และสามารถใช้งานได้จริง เช่น ทันทีที่สตาร์ทเครื่อง ฟังก์ชัน “welcome light” จะถูกเปิดใช้งานเพื่อให้ไฟหน้าและไฟท้ายสว่างขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ ในขณะที่ฟังก์ชัน “goodbye” จะทำให้ไฟทำงานไปซักระยะหนึ่งหลังจากที่ดับเครื่องยนต์ลง แล้วจึงค่อย ๆ ดับสนิท ในขณะเดียวกัน ฟังก์ชัน “follow me home” ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดไฟหน้าได้ชั่วครู่หลังดับเครื่องยนต์ เพื่อการควบคุมรถอย่างปลอดภัยภายในลานจอดช่วงเวลากลางคืน

บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GT, K 1600 GTL, K 1600 B และ K 1600 Grand America ใหม่ มาพร้อมจอภาพสี TFT ขนาด 10.25 นิ้ว ใหม่ พร้อมระบบนำทางและฟีเจอร์การเชื่อมต่อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเสียง 2.0 ใหม่ และเครื่องรับสัญญาณวิทยุดิจิทัล DAB+ (Digital Audio Broadcasting Plus) มอบความเพลิดเพลินตลอดเส้นทางการขับขี่ด้วยระบบเสียงที่ดังฟังชัดรวมถึงการรับสัญญาณเสียงที่มีความเสถียรสูงสุด

บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B และ K 1600 Grand America พร้อมให้เป็นเจ้าของในสีดำ Black Storm Metallic, สีเทาด้าน Manhattan Metallic Matt และสีพิเศษ Option 719 Ionic Silver Metallic ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GT มาในสีดำ Black Storm Metallic, สีขาว Light White / สีน้ำเงิน Racing Blue Metallic / สีแดง Racing Red และสี Option 719 Meteoric Dust 2 Metallic ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 GTL มาในสีดำ Black Storm Metallic, สีฟ้า Gravity Blue Metallic และสี Option 719 Meteoric Dust 2 Metallic

อุ่นใจขึ้นและสนุกกว่าในทุกเส้นทางกับข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์โชว์ 2024

ข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด*

1.ลูกค้าที่สั่งจองบีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ใหม่ ในงาน รับฟรีเสื้อยืดและหมวก R 1300 GS รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน

2.ลูกค้าที่จองและรับรถ R 1300 GS ใหม่ 100 คันแรกในไทย รับฟรี กระเป๋าเป้ BMW Motorrad x Rubber Killer
รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน

3.ลูกค้าที่จองและรับรถบีเอ็มดับเบิลยู CE 02 ใหม่ 32 คันแรกในไทย รับฟรี เซ็ตของขวัญ CE 02 x Benzilla
รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

รุ่นข้อเสนอ
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XRดอกเบี้ย 1% นานสูงสุด 5 ปี ฟรี กระเป๋าติดข้างมอเตอร์ไซค์
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GSฟรี กล่องติดท้ายมอเตอร์ไซค์ 
บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GT บีเอ็มดับเบิลยู R 18 บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic บีเอ็มดับเบิลยู R 18 B บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pureประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี 
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure
(new Rallye Black)
ฟรี กล่องติดข้างมอเตอร์ไซค์ 2 ใบ 
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GSฟรี กล่องติดข้างมอเตอร์ไซค์ 2 ใบ และแครชบาร์ ประกันภัยชั้นหนึ่ง สูงสุด 1 ปี แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive (BMSI)
3 ปี   

Related Articles

ชมงาน ชิงรถ! MOTOR EXPO APPLICATION ชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ผ่าน MOTOR EXPO APPLICATION ลุ้นรับฟรี รถยนต์ SUZUKI รุ่น SWIFT GL มูลค่า 567,000 บาท

“MOTOR EXPO” APP อัดแน่นข้อมูลของงาน “MOTOR EXPO 2024” ทั้งรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทุกแบรนด์ภายในงานจาก Influencer ชื่อดัง...

ไฮไลท์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41

บีเอ็มดับเบิลยู X3 กลับมาอีกครั้งในเจนเนอเรชันที่ 4 เพื่อสานต่อความสำเร็จในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์มากความสามารถที่ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทยต่างไว้วางใจ โดยในรุ่นล่าสุดนี้ มาพร้อมกับดีไซน์ที่ให้อารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นและสง่างามกว่าเดิม พร้อมเสริมทั้งประสิทธิภาพและความคล่องตัวให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ลูกค้าในไทยยังจะได้สัมผัสกับ X3 ที่มีประสิทธิภาพระดับ...

โตโยต้า สร้างความมั่นใจและตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการบริการลูกค้า จัดกิจกรรม “การแข่งขันทักษะการบริการลูกค้า” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 46 46th Toyota Dealer Customer Service Skills Contest

นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลการแข่งขันทักษะการบริการลูกค้าโตโยต้า รอบชิงชนะเลิศ ประจำปี 2567 พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงานรักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายประสิทธิ์ อินทโชติรองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายธนภัทร แสงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้บริหารกระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการ หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมกิจกรรม โดยมี มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่...