Hotline 083-411-9393
Friday , 22 November 2024
Home News ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนเติบโตลดลง ยอดขาย 39,048 คัน ลดลง 37.1%
News

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนเติบโตลดลง ยอดขาย 39,048 คัน ลดลง 37.1%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2567 ยอดขายตลาดรวม 39,048 คัน ลดลง 37.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 15,668 คัน ลดลง 38.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 23,380 คัน ลดลง 36.2% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,972 คัน ลดลง 40.1%

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน 2567 มียอดขาย 39,048 คัน ลดลง 37.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งเติบโตลดลงที่ 38.4% ด้วยยอดขาย 15,668 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ลดลงเช่นกันที่ 36.2% ด้วยยอดขาย 23,380 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 13,972 คัน ลดลง 40.1% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 13,102 คัน คิดเป็นสัดส่วน 34% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นกันที่ 11% แต่ยังคงสัดส่วนการขายสูงที่สุดในตลาดรถ xEV ด้วยยอดขาย 7,355 คัน คิดเป็น 56% ของตลาด xEV ทั้งหมด ในส่วนของรถยนต์ BEV ทำยอดขายได้ 4,982 คัน ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนกันยายน แต่ยังคงเติบโตลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและผลกระทบจากภาวะอุทกภัย อย่างไรก็ตาม การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง รวมถึงการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และโปรโมชันการขายที่น่าสนใจจากหลากหลายค่ายรถยนต์ อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2567

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 39,048 คัน ลดลง 37.1%                        

อันดับที่ 1 โตโยต้า      15,311 คัน      ลดลง   27.6%           ส่วนแบ่งตลาด   39.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           6,080 คัน       ลดลง   44.2%           ส่วนแบ่งตลาด   15.6%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      4,365 คัน       ลดลง   52.1%           ส่วนแบ่งตลาด   11.2%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 15,668 คัน ลดลง 38.4%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า      4,692 คัน       ลดลง   52.7%           ส่วนแบ่งตลาด   29.9%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      3,426 คัน       ลดลง   18.7%           ส่วนแบ่งตลาด   21.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,395 คัน       เพิ่มขึ้น 28.8%            ส่วนแบ่งตลาด   8.9%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 23,380 คัน ลดลง 36.2%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      10,619 คัน      ลดลง     5.3%           ส่วนแบ่งตลาด   45.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           6,080 คัน       ลดลง   44.2%           ส่วนแบ่งตลาด     26%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,374 คัน       ลดลง   53.4%            ส่วนแบ่งตลาด   5.9%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 13,972 คัน ลดลง 40.1%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า        6,488 คัน      ลดลง     32%            ส่วนแบ่งตลาด   46.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ             5,101 คัน      ลดลง   45.1%           ส่วนแบ่งตลาด   36.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          1,374 คัน      ลดลง   53.4%            ส่วนแบ่งตลาด   9.8%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,463 คัน

อีซูซุ 949 คัน – โตโยต้า 798 คัน – ฟอร์ด 574 คัน – มิตซูบิชิ 97 คัน – นิสสัน 45 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,509 คัน ลดลง 39.8%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า         5,690 คัน     ลดลง   28.3%            ส่วนแบ่งตลาด   49.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ             4,152 คัน     ลดลง   47.8%           ส่วนแบ่งตลาด   36.1%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด            800 คัน      ลดลง   60.2%            ส่วนแบ่งตลาด      7%     

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –  กันยายน 2567

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 438,659 คัน ลดลง 25.3%                              

อันดับที่ 1 โตโยต้า      167,218 คัน     ลดลง   16.1%           ส่วนแบ่งตลาด   38.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           65,269 คัน     ลดลง   45.7%           ส่วนแบ่งตลาด   14.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      58,311 คัน     ลดลง   16.6%           ส่วนแบ่งตลาด   13.3%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 169,862 คัน ลดลง 22.7%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      48,823 คัน      ลดลง   36.9%           ส่วนแบ่งตลาด   28.7%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      33,981 คัน      ลดลง    22.6%          ส่วนแบ่งตลาด     20%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      13,740 คัน      เพิ่มขึ้น   8.4%           ส่วนแบ่งตลาด   8.1%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 268,797 คัน ลดลง 26.8%                    

อันดับที่ 1 โตโยต้า      118,395 คัน     ลดลง     2.9%           ส่วนแบ่งตลาด     44%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           65,269 คัน     ลดลง   45.7%            ส่วนแบ่งตลาด   24.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      24,330 คัน     ลดลง   6.3%            ส่วนแบ่งตลาด    9.1%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 153,504 คัน ลดลง 40%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      70,632 คัน      ลดลง   29.5%           ส่วนแบ่งตลาด     46%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           56,812 คัน      ลดลง   47.5%           ส่วนแบ่งตลาด     37%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        16,104 คัน      ลดลง     44%            ส่วนแบ่งตลาด   10.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 26,944 คัน

โตโยต้า 9,534 คัน – อีซูซุ 9,196 คัน – ฟอร์ด 6,138 คัน – มิตซูบิชิ 1,753 คัน – นิสสัน 323 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 126,560 คัน ลดลง 39.3 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า      61,098 คัน      ลดลง  26.4%             ส่วนแบ่งตลาด   48.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          47,616 คัน      ลดลง    48%             ส่วนแบ่งตลาด   37.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        9,966 คัน       ลดลง  48.9%             ส่วนแบ่งตลาด   7.9% 

Related Articles

เมอร์เซเดส-เบนซ์ พารถยนต์ไฟฟ้า EQS SUV ตะลุยเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตงเติมความมั่นใจทุกการขับขี่ เช็คอินจุดชาร์จทั่วภาคใต้!  

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พาตะลุยเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic...

นิสสัน เตรียมเปิดตัว “เซเรน่า” เติมสีสันในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 

นิสสัน ประกาศสร้างสีสันในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) กับการเปิดตัวรถยนต์ “นิสสัน เซเรน่า ใหม่” รถยนต์อเนกประสงค์...

เตรียมพบกับ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ในปี 2569

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศความพร้อมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อส่งมอบสมรรถนะการใช้งานที่เหนือระดับไปอีกขั้นสำหรับลูกค้าที่เกิดมาแกร่งอย่างแท้จริง โดยพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลีย ปี พ.ศ....

ย้อนตำนานต้นกำเนิดปิกอัพมาสด้าในประเทศไทยกว่า 74 ปี ยังคงสรรสร้างยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร

การไหลผ่านของเวลาที่ล่วงเลยมาอย่างยาวนานของมาสด้า คือบทพิสูจน์บนเส้นทางแห่งความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ไปพร้อมกับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และความภาคภูมิใจแห่งยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ด้วยก้าวย่างที่มั่นคง แข็งแรง สร้างพื้นฐานไว้อย่างแน่นหนา จวบจนปัจจุบัน เป็นบทสรุปแห่งความสำเร็จกว่า 74 ปี ในประเทศไทย...