Hotline 083-411-9393
Friday , 22 November 2024
Home News เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยสภาวะตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ วิเคราะห์เทรนด์ โอกาส ความท้าทาย และพฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน
News

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยสภาวะตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ วิเคราะห์เทรนด์ โอกาส ความท้าทาย และพฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์สะท้อนการเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่​ในงาน International NEV Summit 2024 ครั้งที่ 2 โดย นายชาญศักดิ์ หลายเจริญโชคชัย ​ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้บรรยายในหัวข้อ “Insights into the NEVs Market in Southeast Asia” เผยความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ มองอดีตและอนาคต พร้อมข้อมูลวิเคราะห์เจาะลึกอย่างละเอียดทั้งแนวโน้มของอุตสาหกรรม โอกาส ความท้าทาย และพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทย และทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน พร้อมชี้โอกาสการเติบโตทางธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยเน้นกลยุทธ์สร้างเอกลักษณ์และมอบความแตกต่างให้ผู้บริโภคสู่การนำพาแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ และขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคอาเซียน โดยงาน International NEV Summit 2024 ครั้งที่ 2 ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ณ ห้องคอนราด บอลลูน โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

งาน International NEV Summit 2024 ครั้งที่ 2 เป็นการประชุมระดับนานาชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนาตลาดรถยนต์พลังงานใหม่เพื่ออนาคต รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายในงานรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้บริหารระดับสูง และนักวิจัย เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนาตลาดพร้อมวางแผนกลยุทธ์อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ และโอกาสในการดำเนินธุรกิจในกลุ่มของรถยนต์พลังงานใหม่

นายชาญศักดิ์ หลายเจริญโชคชัย ​ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) วิเคราะห์ข้อมูลตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ทั้งในไทยและในภูมิภาคอาเซียนว่า “ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนในปี พ.ศ. 2566 มียอดขายทั้งสิ้น 3.4 ล้านคัน โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) กว่า 3 แสนคัน หรือ 8% ของตลาดรถยนต์โดยรวมทั้งหมด โดยใน 8% นี้ แบ่งเป็น รถยนต์ไฮบริด (HEV) 4%, รถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) 1%, และรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) 3% โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มียอดขายรถ NEV สูงที่สุดในตลาดอาเซียน หรือประมาณ 64% ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 19%, มาเลเซีย 8%, เวียดนาม 6% และฟิลิปปินส์ ที่ 3% โดยรถ NEV ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอาเซียนจะเป็นรถเอสยูวีและรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ คาดการณ์ว่า ภายในปี 2568 ตลาดอาเซียนจะมียอดขายรถ NEV เพิ่มขึ้นจาก 3 แสนคันเป็น 6 แสนคัน หรือมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 18% ของตลาดรถยนต์โดยรวม ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้เร่งทำกลยุทธ์เพื่อคว้าโอกาสใหญ่นี้ท่ามกลางจำนวนประชากรในภูมิภาคที่มีมากถึง 640 ล้านคน โดยอีก 6 ปีข้างหน้า จำนวนประชากรจะทะลุถึง 721 ล้านคน และยังเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยศักยภาพในการเป็นมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจ เป็นที่ตั้งของแรงงานของคนรุ่นใหม่ไปจนถึงกลุ่มคนระดับกลางที่กำลังเติบโต”

เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่สร้างการเติบโตของรถยนต์ NEV ในแต่ละประเทศในตลาดอาเซียนจะพบว่า นโยบายภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการผลิตและการใช้รถยนต์ NEV โดยในประเทศไทย มีนโยบาย 30@30 การส่งเสริมการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ประเทศมาเลเซียตั้งเป้าหมายสัดส่วนรถยนต์ NEV 31%, 40%, 70% ภายในปี 2569, 2578, และ 2593 ตามลำดับ สำหรับประเทศอินโดนีเซีย ตั้งกลยุทธ์ INDONESIA AUTOMOTIVE 4.0 เป้าหมายมีรถยนต์ NEV 20% ภายในปี 2569 รวมถึงให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนผลิตแบตเตอรี่ในการใช้แร่นิกเกิลที่มีอยู่ในประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ ในประเทศเวียดนาม ตั้งเป้าให้รถยนต์ทุกคันบนถนนเป็นรถยนต์พลังงานสีเขียวภายในปี 2593 และในประเทศฟิลิปปินส์ ออกนโยบายการลดภาษีนำเข้ารถ NEV เหลือ 0% จนถึงปี 2571 เพื่อกระตุ้นการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตลาด NEV ในอาเซียนก็ยังมีความท้าทายในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความต่อเนื่องของนโยบายของภาครัฐ การกีดกันทางการค้าทั้งในรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษี ความพร้อมของผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบอะไหล่ต่าง ๆ ภายในประเทศ รวมถึงข้อกังวลในมุมมองผู้บริโภค ทั้งในด้านของราคาชิ้นส่วนอะไหล่โดยเฉพาะแบตเตอรี่ ค่าประกันภัยรถยนต์ NEV ความพร้อมของสถานีชาร์จ ความไม่มั่นใจในคุณภาพสินค้า ราคาขายต่อ ความกังวลด้านบริการหลังการขายและความรู้ความชำนาญของช่างเทคนิค รวมถึงความกังวลผลพวงจากสงครามราคา ล้วนเป็นปัจจัยที่ชะลอการเติบโตของตลาดรถยนต์ NEV ในภูมิภาคอาเซียนทั้งสิ้น

สำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้ามาดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและเป็นประเทศยุทธศาสตร์ โดยในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมและเร่งขับเคลื่อนปรับกลยุทธ์ด้วยการสร้างความแตกต่างผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 10 รุ่น โดยครอบคลุมทุกประเภทเครื่องยนต์ที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งไฮบริด ปลั๊กอิน-ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มรถยนต์ตระกูล HAVAL และ ORA ที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเทรนด์ความต้องการใช้งานรถยนต์พลังงานใหม่ในกลุ่มนรถยนต์อเนกประสงค์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รวมถึงเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและนวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยขั้นสูงสุด การออกแบบที่มีเอกลักษณ์และเพื่ออนาคต งานบริการหลังการขายที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเร่งเดินหน้าผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบนิเวศรถยนต์พลังงานใหม่ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การตั้งโรงงานอัจฉริยะแห่งแรกในอาเซียนเมื่อปี พ.ศ. 2564 ที่จังหวัดระยอง รวมถึงการนำพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น โรงงานผลิตแบตเตอรี่ SVOLT, HYCET, NOBO, MIND, และ Exquisite สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้อีกด้วย

นอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ภายใต้นโยบาย One Price Policy ที่สร้างความเชื่อมั่นและความโปร่งใสในการกำหนดราคา ให้ผู้บริโภคคลายความกังวลด้วยราคาเดียวกันทั่วประเทศ โมเดลการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ สโตร์ (Partner Models) ที่เน้นการสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน การให้บริการแบบผสานช่องทางการค้าแบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ (Online to Offline Commerce) ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และ Smart Service ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล รวมถึงการรับฟังเสียงของผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-Centric) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานใหม่เพื่ออนาคต เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน อยู่เคียงข้างคนไทยและผลักดันศักยภาพของประเทศไทยเพื่อก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใต้วิสัยทัศน์ In Thailand, For Thailand

Related Articles

เมอร์เซเดส-เบนซ์ พารถยนต์ไฟฟ้า EQS SUV ตะลุยเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตงเติมความมั่นใจทุกการขับขี่ เช็คอินจุดชาร์จทั่วภาคใต้!  

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พาตะลุยเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic...

นิสสัน เตรียมเปิดตัว “เซเรน่า” เติมสีสันในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 

นิสสัน ประกาศสร้างสีสันในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) กับการเปิดตัวรถยนต์ “นิสสัน เซเรน่า ใหม่” รถยนต์อเนกประสงค์...

เตรียมพบกับ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ในปี 2569

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศความพร้อมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อส่งมอบสมรรถนะการใช้งานที่เหนือระดับไปอีกขั้นสำหรับลูกค้าที่เกิดมาแกร่งอย่างแท้จริง โดยพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลีย ปี พ.ศ....

ย้อนตำนานต้นกำเนิดปิกอัพมาสด้าในประเทศไทยกว่า 74 ปี ยังคงสรรสร้างยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร

การไหลผ่านของเวลาที่ล่วงเลยมาอย่างยาวนานของมาสด้า คือบทพิสูจน์บนเส้นทางแห่งความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ไปพร้อมกับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และความภาคภูมิใจแห่งยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ด้วยก้าวย่างที่มั่นคง แข็งแรง สร้างพื้นฐานไว้อย่างแน่นหนา จวบจนปัจจุบัน เป็นบทสรุปแห่งความสำเร็จกว่า 74 ปี ในประเทศไทย...