วันที่ 19 ธันวาคม 2567 เวลา 10.30 น. ณ อาคารรัฐสภา(เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เครือข่ายความร่วมมือภาคประชาสังคมที่ประกอบด้วย แกนนำชุมชน ภาคประชาชน แกนนำเด็กและเยาวชน เครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพประชาชนนักวิชาการ และอดีตข้าราชการ ได้ขอเข้าพบประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นเรื่องริเริ่มร่าง พระราชบัญญัติกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พ.ศ…. โดยมีนายวัชรพงศ์ พุ่มชื่น กรรมการและเลขานุการมูลนิธิศูนย์วิชาการสารเสพติด กับคณะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ประสงค์เป็นผู้เชิญชวน จำนวน 30 คน โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากร โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายวัชรพงศ์ พุ่มชื่น กรรมการและเลขานุการมูลนิธิศูนย์วิชาการสารเสพติด กล่าวว่า จากสถานการณ์และมุมปัญหากัญชาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ที่มีผลมาจากเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเทศที่ 5 พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้โดยกำหนด “ ทุกส่วนของกัญชา” ไม่ถือว่าเป็นยาเสพติด และสอดคล้องกับที่รัฐสภาได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 โดยมีสาระสำคัญคือ การถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด หรืออาจกล่าวได้ว่า วันที่ 9 มิถุนายน 2565 คือ การประกาศเสรีกัญชาแทบไร้ข้อจำกัด สังคมไทยอยู่กับสถานการณ์เสรีกัญชามากกว่า 2 ปี ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมต่อกัญชามีความคิดเห็นที่แตกต่าง อีกทั้ง ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งที่เป็นประโยชน์และผลกระทบที่เกิดจากกัญชาก็มีให้เห็นอยู่ ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ และผ่านงานศึกษาวิจัยมากมาย จนอาจกล่าวได้ว่ากัญชาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยอย่างเปิดเผยและมีผู้คนที่ได้ประโยชน์จากกัญชา และในขณะเดียวกันก็มีผู้คนในสังคมไทยที่ได้รับผลกระทบจากกัญชาเช่นเดียวกัน
“การใช้กัญชาในทางประโยชน์ทางการแพทย์ เป็น ทางเลือกของประชาชนคนไทย เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยหรือกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่เกิดรายได้จากการปลูกกัญชาหรือธุรกิจกัญชา แต่ข้อเท็จจริงพบว่า มีผู้ประกอบการจำหน่ายช่อดอกกัญชาเชิงนันทนาการ อยู่ทั่วประเทศ และซื้อดอกกัญชามีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท การใช้ช่อดอกกัญชาเกินความจำเป็นนั้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาการใช้กัญชาในกลุ่มเด็กเยาวชน เกิดปัญหาผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้กัญชาในปริมาณที่มากเกินไป หรือใช้กัญชาอย่างไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ภาพปรากฎการณ์กัญชาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยสะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนคนไทย ดังนั้นถึงเวลา ที่ควรต้องมีกฎหมายในการป้องกันและลดผลกระทบจากการใช้กัญชาในทางที่ผิด” นายวัชรพงศ์ กล่าว
นายวัชรพงศ์ กล่าวอีกว่า เครือข่ายเห็นถึงประโยชน์และเห็นถึงผลกระทบจากกัญชา จึงได้รวมตัวกันนำข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชน พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มายกร่างพระราชบัญญัติกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พ.ศ…. ขึ้น บนความเชื่อว่า กัญชาเป็นพืชที่เป็นประโยชน์หากนำไปใช้ให้เหมาะสมและควรกำหนดมาตรการการป้องกันและควบคุมการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ ควรมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคที่อาจได้รับผลกระทบจากการใช้ บริโภคกัญชาและควรมีกลไกรูปแบบคณะกรรมการกัญชาเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการการควบคุมช่อดอกและสารสกัดดอกกัญชา และการใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางสร้างสรรค์ ร่างพระราชบัญญัติกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พ.ศ…. นี้ เป็นเสมือนแนวทางหรือข้อตกลงร่วมที่จะทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้อยู่ร่วมกับกัญชาได้อย่างปลอดภัย ภายใต้หลักการสำคัญ ห้าประการคือ 1. ต้องปกป้องเด็กเยาวชนจากกัญชา 2 สนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี 3 ต้องลดผลกระทบจากการใช้กัญชาในทางที่ผิด 4.ผู้ป่วยต้องเข้าถึงกัญชาเพื่อรักษาได้โดยง่าย และ 5. ต้องคุ้มครองผู้บริโภค จากผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชา