บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดเกมตลาดอีวีสุดร้อนแรงในปี 2567 ด้วยการตอกย้ำความสำเร็จทั้งรางวัลและยอดขายของ MG4 ELECTRIC ด้วยรุ่น XPOWER กับการเป็นแฮทช์แบคพลังงานไฟฟ้า 100% ตัวแรงของ เอ็มจี มาตรฐานและประสบการณ์ครั้งใหม่ของรถอีวีที่ขับสนุกและเร้าใจ เหนือกว่าใครในคลาสด้วยสมรรถนะขั้นสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0 -100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.8 วินาที มาไทยด้วยสเปกจัดเต็ม พร้อมเผยโฉมคันจริงอย่างเป็นทางการในงาน MG Everyday Electric ระหว่างวันที่ 13-19 มีนาคมนี้ ที่ ลานโปรโมชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ 2567 ที่ งานบางกอกอินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45
MG4 ELECTRIC ถือเป็นโกลบอลอีวีของ เอ็มจี ที่ประสบความสำเร็จโดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้อีวีทั่วโลก ด้วยรางวัลโมเดลยอดเยี่ยมแห่งปีทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างยอดขายรวมที่มีมากถึงกว่า 140,000 คัน ครอบคลุมทั้งในตลาดยุโรป ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศไทย ซึ่งทำยอดขายรวมมากกว่า 7,000 คัน ซึ่งในปีนี้ MG4 ELECTRIC ยังถือเป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ของ เอ็มจี ที่จะเข้ามาสร้างสีสันและนำเสนอความเหนือชั้น เพื่อผลักดันตลาดอีวีในไทยไปสู่อีกระดับ ประเดิมด้วยประสบการณ์อีวีครั้งใหม่จาก MG4 XPOWER
MG4 XPOWER ยังคงความเป็น “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเป็นยนตรกรรมที่พัฒนาบน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เหนือกว่าด้วยการเป็นอีวีสมรรถนะขั้นสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ เอ็มจี ที่มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ทั้งยังใช้เทคโนโลยี Rubik’s Cube Battery ขนาดความจุ 64 kWh สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 480 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) คงจุดเด่นของ MG4 ELECTRIC ไม่ว่าจะเป็นการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) กับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทำให้ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม และช่วยให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนดียิ่งขึ้น เพิ่มเติมระบบ One Pedal เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น คำนึงถึงผู้ใช้รถด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ครอบคลุม 23 ระบบ สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบภายนอกสปอร์ตรอบคันกับตัวถังสีใหม่สีเขียว (Wild Hunter Green) พร้อมด้วยหลังคาแบบทูโทน (Blacktop) ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว และคาลิปเปอร์เบรกสีส้มสุดร้อนแรง ภายในห้องโดยสารสีดำโดยเสริมความสปอร์ตพรีเมียมด้วยวัสดุหุ้มเบาะที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์และหนังอัลคันทาร่า (Alcantara) สะดวกยิ่งขึ้นกับระบบอัจฉริยะ Intelligent Smart Access ที่คนขับสามารถเหยียบเบรกแล้วระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ และช่วยทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART เต็มฟังก์ชัน
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจีถือเป็นแบรนด์ที่มีความมุ่งมันในเรื่องการบุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และได้นำโกลบอลโมเดลอย่าง MG4 ELECTRIC เข้ามาขายในประเทศไทยในช่วงเวลาใกล้เคียงกับตลาดยุโรป ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา MG4 ELECTRIC ถือเป็นรุ่นที่ทำให้เราได้รับรางวัล “THAILAND EV OF THE YEAR 2023” เป็นครั้งแรกจาก สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย การเพิ่มรุ่น XPOWER ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ เอ็มจี ตั้งใจนำรถไฟฟ้าสมรรถนะสูงเข้ามาเติมเต็ม EV Portfolio ในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นหลักของรถที่มีการนำเทคโนโลยีอีวีสมรรถนะขั้นสูง พร้อมการจูนช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพสามารถรองรับกำลังของมอเตอร์คู่ได้อย่างสมดุล และยังเป็นการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความเร็วและความแรงที่เหนือกว่าของรถอีวี โดยเราเชื่อมั่นว่าด้วยความแตกต่างและไม่เหมือนใครนี้ จะทำให้ MG4 XPOWER ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถยกระดับมาตรฐานรถอีวีสู่อีกขั้น ทั้งยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ เอ็มจี ในการ ทำตลาดอีวี ด้วยการนำเสนอและเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์อีวีที่หลากหลายเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง”
โดย MG4 XPOWER พร้อมเผยโฉมจริงอย่างเป็นทางการ ให้คนไทยได้สัมผัสกับความเร็วและแรงครั้งใหม่ ในงาน “MG EVERYDAY ELECTRIC” ระหว่างวันที่ 13-19 มีนาคมนี้ ที่ ลานโปรโมชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และมีกำหนดประกาศราคาและเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 มีนาคม ที่งานบางกอกอินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45