Hotline 083-411-9393
Friday , 22 November 2024
Home News CSR มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปลูกป่าชายเลน ณ จังหวัดจันทบุรีสานต่อโครงการ “Root for Sustainability: รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ปีที่ 3
CSRNews

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปลูกป่าชายเลน ณ จังหวัดจันทบุรีสานต่อโครงการ “Root for Sustainability: รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ปีที่ 3

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าคืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติในโครงการ Root for Sustainability: รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ปีที่ 3 ด้วยการปลูกต้นโกงกางกว่า 12,000 ต้น บนพื้นที่ป่าชายเลน 16.57 ไร่ ณ ตำบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี มุ่งรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนเป็นกลาง สอดคล้องกับความมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อสังคมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ด้วยแนวคิด “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย” ภายใต้หลักสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ

มร. โนโบรุ สึจิ ประธานคณะกรรมการบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

มร. โนโบรุ สึจิ ประธานคณะกรรมการบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นดำเนินการเชิงรุกเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในโครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 โครงการปลูกป่าชายเลนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ด้วยปณิธานที่จะรับผิดชอบต่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม โดยเรามีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการปลูกป่าและดูแลรักษาป่าอย่างต่อเนื่องไปถึง 10 ปี พร้อมกันนี้ เรายังสนับสนุนโครงการธนาคารสัตว์น้ำในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศของป่าชายเลนให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีกด้วย”

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เริ่มดำเนินโครงการ Root for Sustainability: รากกล้าแห่งความยั่งยืน” เพื่อฟื้นฟูผืนป่าคืนธรรมชาติสู่สิ่งแวดล้อมในปี 2564 เริ่มต้นในจังหวัดชลบุรี สระแก้ว และนครราชสีมา ปัจจุบัน โครงการนี้ประสบความสำเร็จในการปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์บนพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ มีเป้าหมายสร้างสิ่งแวดล้อมให้มีความสมบูรณ์ยั่งยืนยิ่งขึ้นเพื่อชุมชนท้องถิ่น

ดร. ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า “การปลูกป่าชายเลนเพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากป่าชายเลน 1 ไร่ มีศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 9.4 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าต่อไร่ต่อปี จึงช่วยลดการเกิดภาวะเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ ป่าชายเลนยังช่วยปกป้องการพังทลายของชายฝั่งจากคลื่นและลม พร้อมกับช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งอีกด้วย ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลทรัพยากรป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงได้ดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลน บริษัทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมไม่เพียงได้มีส่วนช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนและได้รับคาร์บอนเครดิตจากการปลูกป่าเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ชุมชนบริเวณชายฝั่งให้ได้มีแหล่งจับหาสัตว์น้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน”

นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า “จันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งพื้นที่ป่า ภูเขา ทะเล พร้อมกับมีชื่อเสียงอย่างแพร่หลายว่าเป็นแหล่งสินค้าทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ผู้คนในชุมชนอำเภอขลุงส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาและประมง ระบบนิเวศชายฝั่งจึงมีความสำคัญกับคนในชุมชนเป็นอย่างมาก กิจกรรมปลูกป่าชายเลนที่ทุกภาคส่วนมาช่วยกันในครั้งนี้จึงถือเป็นการต่อยอด สร้างระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม และแหล่งอาหารอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนชายฝั่งต่อไปในอนาคต”

ในงานนี้ ทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้นำรถรุ่นต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมัน มาใช้งานเพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ประกอบด้วย เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด  ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการโดยสารมากถึง 7 ที่นั่ง รวมถึง ออล-นิว ไทรทัน ที่นำมาใช้ขนย้ายต้นกล้าไปปลูกยังพื้นที่ป่าชายเลน ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ใหม่ให้พละกำลังมากกว่าเดิม เพิ่มการประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ให้ความแข็งแรงสมบุกสมบันพร้อมลุยในทุกสภาพถนน และ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วยกำลังไฟมากสุด 1,500 วัตต์ โดยถูกนำมาใช้จ่ายไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 63 ปีด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการจัดการการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม หนึ่งในนั้นคือโครงการ Root for Sustainability: รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ที่มีเป้าหมายฟื้นฟูป่าและขยายพื้นที่ธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

Recent Posts

Categories

Related Articles

เมอร์เซเดส-เบนซ์ พารถยนต์ไฟฟ้า EQS SUV ตะลุยเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตงเติมความมั่นใจทุกการขับขี่ เช็คอินจุดชาร์จทั่วภาคใต้!  

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พาตะลุยเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic...

นิสสัน เตรียมเปิดตัว “เซเรน่า” เติมสีสันในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 

นิสสัน ประกาศสร้างสีสันในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) กับการเปิดตัวรถยนต์ “นิสสัน เซเรน่า ใหม่” รถยนต์อเนกประสงค์...

เตรียมพบกับ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ในปี 2569

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศความพร้อมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อส่งมอบสมรรถนะการใช้งานที่เหนือระดับไปอีกขั้นสำหรับลูกค้าที่เกิดมาแกร่งอย่างแท้จริง โดยพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลีย ปี พ.ศ....

ย้อนตำนานต้นกำเนิดปิกอัพมาสด้าในประเทศไทยกว่า 74 ปี ยังคงสรรสร้างยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร

การไหลผ่านของเวลาที่ล่วงเลยมาอย่างยาวนานของมาสด้า คือบทพิสูจน์บนเส้นทางแห่งความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนายานยนต์ไปพร้อมกับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และความภาคภูมิใจแห่งยนตรกรรม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ด้วยก้าวย่างที่มั่นคง แข็งแรง สร้างพื้นฐานไว้อย่างแน่นหนา จวบจนปัจจุบัน เป็นบทสรุปแห่งความสำเร็จกว่า 74 ปี ในประเทศไทย...