Hotline 083-411-9393
Thursday , 5 December 2024
Home News ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม ชะลอตัว ยอดขาย 37,691 คัน ลดลง 36.1%
News

ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม ชะลอตัว ยอดขาย 37,691 คัน ลดลง 36.1%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2567 ยอดขายตลาดรวม 37,691 คัน ลดลง 36.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 15,559 คัน ลดลง 29.7% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 22,132 คัน ลดลง 39.9% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,347 คัน ลดลง 42%

ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม 2567 มียอดขาย 37,691 คัน ลดลง 36.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 15,559 คัน ชะลอตัวที่ 29.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ยอดขาย 22,132 คัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 39.9% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 13,347 คัน ลดลง 42% และในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 12,243 คัน ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 32% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด รถยนต์ HEV ทำยอดขายได้ 7,300 คัน ลดลง 21% ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 4,130 คัน ลดลง 47%

 ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนตุลาคม แต่คาดว่าอัตราการเติบโตยังคงลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ และโปรโมชันการขายที่น่าสนใจจากหลากหลายค่ายรถยนต์ ที่จะถูกนำเสนอใน “งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 Thailand International Motor Expo 2024” ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปี

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2567 

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 37,691 คัน ลดลง 36.1%                        

อันดับที่ 1 โตโยต้า      15,162 คัน      ลดลง   27.3%           ส่วนแบ่งตลาด   40.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           6,092 คัน       ลดลง   44.4%           ส่วนแบ่งตลาด   16.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      4,137 คัน       ลดลง   43.4%           ส่วนแบ่งตลาด     11%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 15,559 คัน ลดลง 29.7%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า      5,210 คัน       ลดลง   27.3%           ส่วนแบ่งตลาด   33.5%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      3,359 คัน       ลดลง       3%           ส่วนแบ่งตลาด   21.6%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,439 คัน       เพิ่มขึ้น 93.7%            ส่วนแบ่งตลาด   9.2%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 22,132 คัน ลดลง 39.9%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      9,952 คัน        ลดลง   27.3%            ส่วนแบ่งตลาด     45%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           6,092 คัน        ลดลง   44.4%           ส่วนแบ่งตลาด   27.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        1,316 คัน        ลดลง   48.2%            ส่วนแบ่งตลาด     5.9%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 13,347 คัน ลดลง 42%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า        5,787 คัน      ลดลง     38%            ส่วนแบ่งตลาด   43.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ             5,204 คัน      ลดลง   46.5%           ส่วนแบ่งตลาด     39%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          1,316 คัน      ลดลง   48.2%            ส่วนแบ่งตลาด   9.9%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,451 คัน

อีซูซุ 1,007 คัน – โตโยต้า 748 คัน – ฟอร์ด 509 คัน – มิตซูบิชิ 136 คัน – นิสสัน 51 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 10,896 คัน ลดลง 41.6 %                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า         5,039 คัน     ลดลง     34%            ส่วนแบ่งตลาด   46.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ              4,197 คัน    ลดลง   49.1%           ส่วนแบ่งตลาด   38.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด             807 คัน     ลดลง   52.3%            ส่วนแบ่งตลาด   7.4%     

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –  ตุลาคม 2567

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 476,350 คัน ลดลง 26.2%                              

อันดับที่ 1 โตโยต้า      182,380 คัน     ลดลง   17.2%           ส่วนแบ่งตลาด   38.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           71,361 คัน     ลดลง   45.6%           ส่วนแบ่งตลาด     15%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      62,448 คัน     ลดลง   19.1%           ส่วนแบ่งตลาด   13.1%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 185,421 คัน ลดลง 23.3%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      54,033 คัน      ลดลง   36.1%           ส่วนแบ่งตลาด   29.1%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า      37,340 คัน      ลดลง    21.2%          ส่วนแบ่งตลาด   20.1%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      15,179 คัน      เพิ่มขึ้น  13.1%          ส่วนแบ่งตลาด   8.2%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 290,929 คัน ลดลง 28%                    

อันดับที่ 1 โตโยต้า      128,347 คัน     ลดลง     5.4%           ส่วนแบ่งตลาด   44.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           71,361 คัน     ลดลง   45.6%            ส่วนแบ่งตลาด   24.5%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า      25,108 คัน     ลดลง   15.8%           ส่วนแบ่งตลาด     8.6%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 166,851 คัน ลดลง 40.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      76,419 คัน      ลดลง   30.2%          ส่วนแบ่งตลาด   45.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           62,016 คัน      ลดลง   47.4%          ส่วนแบ่งตลาด   37.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        17,420 คัน      ลดลง   44.4%          ส่วนแบ่งตลาด   10.4%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 29,395 คัน

โตโยต้า 10,282 คัน – อีซูซุ 10,203 คัน – ฟอร์ด 6,647 คัน – มิตซูบิชิ 1,889 คัน – นิสสัน 374 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 137,456 คัน ลดลง 39.5%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      66,137 คัน      ลดลง     27%            ส่วนแบ่งตลาด   48.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          51,813 คัน      ลดลง   48.1%           ส่วนแบ่งตลาด   37.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        10,773 คัน      ลดลง   49.2%            ส่วนแบ่งตลาด   7.8% 

Recent Posts

Categories

Related Articles

6 ทีมสุดยอดนักศึกษาไทยโชว์ศักยภาพ ประกวดนวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน ใน CHOICEISYOURS ปีที่สาม

เจ็ดองค์กรชั้นนำของประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มูลนิธิชัยพัฒนา เอสซีจี ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กลุ่มเซ็นทรัล โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ และบริษัท...

ซูซูกิ ผนึกกำลังผู้จำหน่าย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย 7 จังหวัด ภาคใต้ เร่งตรวจเช็ค ฟื้นฟู ซ่อมแซมรถยนต์ถูกน้ำท่วม มอบส่วนลดพิเศษ 30% ค่าแรง ค่าอะไหล่ ค่าเคมีภัณฑ์

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่ซูซูกิให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ การส่งเสริมและช่วยเหลือสังคมและประชาชนในยามที่ได้รับความเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งหวังที่จะเห็นสังคมไทยก้าวหน้าไปอย่างมีคุณภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน นายวัลลภ...

เดินทางอุ่นใจทั่วไทยไปกับ BYD ด้วยโชว์รูมและศูนย์บริการ 123 สาขา ให้บริการครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเมืองรอง

เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึงเดือนก็จะเข้าสู่ศักราชใหม่อย่างเป็นทางการ ในโมเมนต์แห่งการนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าเช่นนี้ เป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้พักผ่อนเติมพลังทั้งกายและใจเพื่อเตรียมตัวต้อนรับสิ่งดี ๆ ในปีหน้า สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเพื่อการท่องเที่ยวหรือเพื่อกลับไปใช้เวลาอันมีค่ากับคนสำคัญในครอบครัว วันนี้ เรเว่ ออโตโมทีฟ และบีวายดี อยากเชิญชวนทุกคนมาวางแผนการเดินทางในช่วงปลายปีเพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจ...