Hotline 083-411-9393
Saturday , 12 April 2025
Home Lifestyle คณะการท่องเที่ยวฯ DPU จับมือ บสย.จัดงานเสวนา”Start Street Food สู่ธุรกิจ 200 ล้าน” เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์“เฮียนพ”จากพ่อค้าขายหมูปิ้งข้างทาง สู่นักธุรกิจร้อยล้าน
Lifestyle

คณะการท่องเที่ยวฯ DPU จับมือ บสย.จัดงานเสวนา”Start Street Food สู่ธุรกิจ 200 ล้าน” เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์“เฮียนพ”จากพ่อค้าขายหมูปิ้งข้างทาง สู่นักธุรกิจร้อยล้าน

คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม ร่วมกับ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(DPU)และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดกิจกรรมเสวนาในโครงการ Start Street Food สู่ธุรกิจ 200 ล้าน” โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์วสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ คณบดีคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม DPU เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ภายในงานมีการจัดเสวนาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจการเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่ยังเรียนไม่จบให้แก่นักศึกษา โดยมีนายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้เชี่ยวชาญศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs(บสย. FA. Center) และ นายชวพจน์ ชูหิรัญ (เฮียนพ หมูนุ่ม) เจ้าของธุรกิจหมูปิ้ง Street Food ร่วมเป็นวิทยากร นอกจากนี้มีการออกร้านจากหน่วยงานต่างๆ และจากนักศึกษาหลายคณะ มีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การสาธิตการย่างหมูปิ้ง ดนตรีโฟล์คซอง และลุ้นไข่ลุ้นโชค ณ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  

อาจารย์วสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ คณบดีคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเพื่อเพิ่มทักษะและปลูกฝังแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจาก บสย. มาให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทสำคัญในการสนับสนุน SMEs และเชิญผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบความสำเร็จ มาให้ความรู้และแบ่งปันแนวทางการสร้างธุรกิจขนาดเล็กให้เติบโตจนเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างประสบการณ์นักศึกษา ด้วยการจัดพื้นที่ให้นักศึกษาได้ทดลองประกอบธุรกิจจริง ภายในงานยังได้เชิญนักศึกษาจากวิทยาลัย CIBA และสายงานกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมงานเสวนา

“ในยุคปัจจุบัน การทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยช่องทางและแพลตฟอร์มต่างๆ เอื้อให้ทุกคนสามารถสร้างธุรกิจของตนเองได้ง่ายขึ้น ทางคณะฯ จึงส่งเสริมให้นักศึกษาเข้าใจหลักการดำเนินธุรกิจและรู้จักเครื่องมือสนับสนุนทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น บสย. ซึ่งให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจขนาดย่อมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อธุรกิจ เราเชื่อว่าหากนักศึกษาเข้าใจการดำเนินธุรกิจและรู้จักแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงได้ จะสามารถนำความรู้ไปต่อยอดธุรกิจของตนเองได้ในอนาคต”อาจารย์วสุกานต์ กล่าว

นายเทียบจิตต์ จันทรภูติผลากร ผู้เชี่ยวชาญศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย. FA. Center) กล่าวว่า บสย.เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีพันธกิจสำคัญในการสนับสนุน SMEs ของประเทศไทย โดยมีบทบาทหลักในการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ปัจจุบัน บสย. ได้รับการจัดสรรวงเงินจำนวน 50,000 ล้านบาทจากรัฐบาล เพื่อดำเนินโครงการ IGNITE THAILAND เป็นการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการใน 8 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพ อุตสาหกรรมอาหาร การบิน การขนส่งระดับภูมิภาค อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และภาคการเงิน โครงการนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

“สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ โดยเฉพาะนักศึกษาที่มีความสนใจในการเริ่มต้นธุรกิจ บสย. มีข้อแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการทดลองทำแผนธุรกิจที่รอบคอบและดำเนินกิจการขนาดเล็กก่อน เพื่อพิสูจน์ศักยภาพและความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ก่อนที่จะพิจารณาการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้เทคนิคการขอสินเชื่อให้ผ่าน สำหรับกิจการที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการจัดทำงบการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการแสดงให้เห็นถึงสภาพการดำเนินธุรกิจที่แท้จริงและมีศักยภาพในการเติบโต ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ควรให้ความสำคัญด้านการจัดทำบัญชีและเอกสารทางการเงินอย่างเป็นระบบ จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้และชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ”

นายชวพจน์ ชูหิรัญ (เฮียนพ หมูนุ่ม) เจ้าของธุรกิจหมูปิ้ง Street Food กล่าวว่า ได้เริ่มทำธุรกิจขายหมูปิ้งหลังตกงานช่วงฟองสบู่แตกในปี 2540 และเริ่มขายดีในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ขณะนั้นไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง จึงเริ่มไปขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทำให้คำนวณต้นทุนการผลิตเป็น ทำให้จัดการกับวัตถุดิบได้ดีขึ้น ขณะนั้นเน้นขายให้ลูกค้าทั่วไป และเริ่มมีตัวแทนจำหน่าย ต่อมาธุรกิจเริ่มเติบโตและมีชื่อเสียงในปี 2558-2559 มีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งติดต่อให้นำสินค้าไปลงขาย แต่ต้องสร้างมาตรฐานของสินค้าให้ได้ก่อน จึงมีการปรับโครงสร้างโรงงานการผลิต เพื่อเตรียมความพร้อมในการสต๊อกสินค้าล็อตใหญ่ ช่วงนั้นเริ่มประสบปัญหาด้านการเงิน จึงขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(SME Bank) โดยผ่านการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ทำให้ได้เงินทุนก้อนแรกจากธนาคารเพื่อนำมาหมุนเวียนในธุรกิจ ส่งผลให้สามารถขยายธุรกิจเข้าสู่โมเดิร์นเทรดและปิดยอดขายได้หลักร้อยล้านต่อปีในช่วงนั้น

“สิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่ไม่ไปรอด คือ การลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ การไม่มีความรู้ด้านการบริหารจัดการต้นทุนและผลกำไร การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ  และไม่มีการพัฒนาตนเองให้ทันเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดังนั้น จึงอยากแนะนำน้องๆที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจ อยากให้เน้นการสร้างยอดขายในช่วงแรก เพราะจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และรักษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าความสำเร็จอาจต้องใช้เวลา แต่การเตรียมความพร้อมและสั่งสมประสบการณ์ จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในอนาคต อย่างไรก็ตามต้นทุนทางความคิด เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจในช่วงแรก การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและการวางแผนอย่างรอบคอบจะเป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จ”เฮียนพ กล่าว

Recent Posts

Categories

Related Articles

CIBA DPU จับมือ ออมสิน เปิดโครงการ ‘ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2568’ ปีที่ 7 หนุนนักศึกษาลงพื้นที่ นนทบุรี-นครปฐม พลิกโฉมผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจฐานราก

วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับ ธนาคารออมสิน เปิดตัว “โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2568” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษานำความรู้ภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง ผ่านการทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน...

“realme 14 5G Series” ประกาศ First Sale ทั่วประเทศพร้อมกัน 4 เมษายนนี้

realme Thailand ประกาศวัน First Sale อย่างเป็นทางการของสมาร์ตโฟนตัวแรงแห่งปีอย่าง “realme 14 5G Series” ให้ทุกคนได้จับจองเป็นเจ้าของพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 4...

เครือข่ายต่อต้านความรุนแรงฯ เข้าชื่อผู้ริเริ่มเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวภาคประชาชน ชี้กฎหมายต้องเอาผิดผู้กระทำจริงจัง หยุดลอยนวล และคุ้มครองเยียวยาผู้เสียหายรอบด้าน จึงจะหยุดความรุนแรงในครอบครัวได้ เตรียมล่า 20,000 รายชื่อหนุน

สมาชิกเครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย ประกอบด้วยองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ จำนวน 10 องค์กร เข้ายื่นเรื่องริเริ่มเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ฉบับภาคประชาชนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนพรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายรัฐบาล พรรคประชาชนในฐานะพรรคฝ่ายค้าน และนางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์...

เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร บุกรัฐสภา เรียกร้องรัฐสภา ฝ่ายค้าน ยับยั้งกฎหมายกาสิโน

นายธนากร  คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมด้วย ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร ยื่นหนังสือถึง ประธานรัฐสภาและผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อคัดค้านการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่รัฐสภา กรุงเทพฯ...